วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อัลฟัลฟา-บิดาแห่งอาหารทั้งมวล

   อัลฟัลฟา ถูกนำมาในประเทศจีนตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 โดยใช้ในการรักษาโรคไต และบรรเทาอาการตัวบวมอันเนื่องมาจากการกักเก็บน้ำในร่างกายมากเกินไป อัลฟัลฟานั้นเป็นสมุนไพรยืนต้นซึ่งเติบโตได้ในสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันทั่วโลก จากการวิจัยทางการแพทย์หลายๆ งานวิจัยทำให้เรารู้ว่า อัลฟัลฟานั้นประกอบไปด้วยสารไบโอติน แคลเซี่ยม โคลิน อินโนซิทอล เหล็ก แมงกานีส PABA (Para-amino benzoic acid) ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โปรตีน โซเดียม ซัลเฟอร์ ทริปโตเฟน (กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในโปรตีน) และวิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ วิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค และวิตามินพี นอกจากนั้นแล้ว อัลฟัลฟา ยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่มีคอโรฟิลล์ และแคโรทีนอยู่มากมาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วย สารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ประโยชน์ของอัลฟัลฟา
   อัลฟัลฟาถูกนำมาใช้ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอลอล  ซึ่งให้ผลที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจของเรา  นอกจากนั้นอัลฟัลฟา ยังมีคุณสมบัติช่วยในการขับถ่าย และลดความอยากอาหารในขณะเดียวกัน อัลฟัลฟาก็ยังถูกนำมาช่วยในการรักษาการติดเชื้อในระบบปัสสาวะ ไต ต่่อมลูกหมากทำงานผิดปกติ อีกทั้งยังช่วยระงับอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ และถุงน้ำต่างๆ ติดเชื้อ และอัลฟัลฟายังเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการวัยทองด้วย เช่นลดอาการร้อนวูบวาบที่จะเกิดขึ้นในบางครั้งบางคราว นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มระดับพลังงานในรางกายเนื่องจากมีคุณสมบัติทางโภชนาการสูงมาก
   เนื่องจากอัลฟัลฟามีส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติทางโภชนาการสูง ดังนั้นประโยชน์ของอัลฟัลฟา  จึงมีมากมายหลายรูปแบบ เช่น
   บำรุงสุขภาพ อัลฟัลฟา อุดมไปด้วยโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนี้เนื่องจากรากที่ยั่งลึกลงไปในดินได้ดูดซึม ธาตุอาหารต่างๆ จากเอ็นไซม์ที่อยู่ในดิน อัลฟัลฟาอุดมไปด้วย วิตามินมากมาย
(โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเค) แร่ธาตุต่างๆ กรดอมิโน แคโรทินอยด์ คลอโรฟิลล์ และเอ็นไซม์ เช่น
ซูปเปอร์ออกไซด์ ดีสมิวเตส (SOD) ซึ้งงเป็นเอ็นไซม์ที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
   ปรับสมดุลฮอร์โมน อัลฟัลฟามีองค์ประกอบพืชที่เรียกว่าไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสตาไดออล โดยไฟโตเอสโตเจน ที่พบในอัลฟัลฟามีอยู่ 3 ตัว คือ โคเมสทรอล จีเนสตีน และฟอร์โมนีติน ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญในการปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนเอสโตเจนนอกจากนั้นอัลฟัลฟายังสงผลต่อการทำง่านของการหลั่งฮอร์โมนไทโรโทรปิน ซึ่งมีผลเกี่ยวเนื่องกันกับการเกิดเนื้องอกในร่างกายด้วย
   ลดรดับคอเลสเตอรอล จากการทดสอบมากมายได้แสดงให้เห็นว่าอัลฟัลฟาช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และสารไขมันความหนาแน่นต่ำ และต่ำมาก ทั้งนี้เป็นเพราะลำใส้มีการดูดซึมที่ดีขึ้นเนื่องมาจากสารไฟโตสเตอรอล และซาโปนินที่มีอยู่ในอัลฟัลฟานั่นเอง
   ป้องกันการเป็นโรคข้ออักเสบ อัลฟัลฟามีประโยชน์ช่วยป้องกันการเป็นโรคข้ออักเสบ ทั้งนี้เพราะระดับของสารอาหารและคลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในอัลฟัลฟาจะช่วยขับล้างสารพิษและการขับถ่ายของเสียได้ตามธรรมชาติ
   ป้องกันการเป็นพิษในระบบการย่อยอาหาร อัลฟัลฟาอุดมไปด้วยเอนไซม์ คลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นประโยชน์กับกระเพาะอาหารของเราโดยคลอโรฟิลล์จะช่วยในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งช่วยลดกลิ่นเหม็นและรักษาเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ยังมีทริชิน สารประกอบที่พบในอัลฟัลฟาซึ่งจะช่วยในการผ่อนคลายการทำงานของกล้ามเนื้อ อัลฟัลฟาจึงให้คุณประโยชน์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารและลำใส้นั่นเอง นอกจากนี้อัลฟัลฟายังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น
- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ส่งเสริมการทำงานของกระแสเลือด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
- ส่งเสริมการดูดซึมโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตของร่างกาย
- ช่วยปรับสภาพเลือดให้มีความบริสุทธิ์ขึ้น
- ป้องกันไขมันจับตัวที่ผนังหลอดเลือด
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดปัญหาอันเกิดเนื่องจากภาวะวัยทอง


 

aomm2002@gmail.com 088-0674891 line:taran29

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข้อท็จจริงเกี่ยวกับ เอฟ เอฟ ซี (ฟังชั่นนัลฟูด คอนเซนเทรด)

ฟังชั่นนัลฟู้ด คอนเซนเทรด (เอฟ เอฟ ซี) คืออะไร

     เอฟ เอฟ ซี ได้เกิดขึ้นจากการค้นคว้าวิจัยมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน ด้วยแนวคิดที่ว่าอาหารมีบทบาทและหน้าที่ของมันเอง ฟังชั่นนัลฟู้ด คืออาหารที่มีคุณประโยน์เฉพาะตัว ส่วนคอนเซนเทรด หรือความเข้มข้นสูงนั้น ก็อยู่ในแนวคิดที่ได้รับการยอมรับว่า ถ้าหากสารอาหารเฉพาะตัวทั้งหลายนั้น ถูกทำให้มีความเข้มข้นสูงขึ้น ก็จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากขั้นเพระถ้าให้ไม่ต้องรับประทานอาหารเหล่านั้นในปริมานมหาศาลเพื่อให้ได้รับคุณค่าสารอาหารที่เพียงพอ

อะไรคือจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของ เอฟ เอฟ ซี เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันในท้องตลาด

     สิ่งสำคัญที่สุดในการแบ่งแยกว่า เอฟ เอฟ ซี นั้นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธรรมดาทั่วไปก็คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยทั่วไปนั้นจะนำเอาวัตถุสังเคราะห์หรือสารสกัดหลายๆ ตัว เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และสังกะสี มาประกอบกันเป็นเม็ดยา ในขณะที่ เอฟ เอฟ ซี นั้นได้นำเอาอาหารซึ่งมีคุณค่านับพันชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งจาจจะเป็นน้ำ เซลลูโลส และนำเอาส่วนประกอบอื่นๆ ในอาหารซึ่งไม่มีความจำเป็นสำหรับร่างกายแยกออกมาให้คงเหลือไว้แต่สารอาหารตามธรรมชาติที่มีความเข้มข้นสูง จากนั้นจึงนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพ โดยมีส่วนผสมที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นสารอาหารที่พืชได้สังเคระห์ขึ้น ดังนั้นจึงดูคล้ายกับว่าได้มีการจัดวางความสมดุลของสารอาหารต่างๆจากสารธรรมชาติ

ผู้ที่ใช้ เอฟ เอฟ ซี บางคน โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มใช้ครั้งแรก อาจจะปรากฏอาการปวด ผื่นขึ้น มึนงง หรือเกิดอาการปวดศรีษะ ฯลฯ อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

     เมื่อใดก็ตามที่คุณเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารหรือโภชนาการ ร่างกายของคุณก็จะเข้าสู่ภาวะของการปรับสภาพ ซึ่งเหมือนกับว่าคุณได้เปลี่ยนแปลงโปรแกรมการออกกำลังกาย หรือคุณเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต นั่นจะทำให้คุณมีความรู้สึกว่าคุณไม่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับสารอาหารหรือสารอาหารเข้มข้นที่คุณรับเข้าไปนั้น ร่างกายของคุณก็จะมีภาวะการปรับสภาพ คำแนะนำทั่วไปคือ ควรเริ่มต้นด้วยขนาดน้อยๆ ก่อน จากนั้นค่อยๆเพิ่มขนาดทีละเล็กละน้อย เมื่อผ่านไปประมาณ 1-3 สัปดาห์ ร่างกายของคุณก็จะปรับสภาพได้อย่างสอดคล้อง

ผู้ใช้บางคนก็ไม่ประสบอาการจากการบำบัดข้างต้น เมื่อเขาเริ่มบริโภค เอฟ เอฟ ซี นั่นหมายถึงว่า ร่างกายของเขาเหล่านั้นไม่ตอบสนองต่อ เอฟ เอฟ ซี รึเปล่า

     ไม่ใช่อย่างแน่นอน หากผู้ที่มีการตอบสนองที่ดีต่อผลิตภัณฑ์ นั่นหมายความว่าเขาเลือกขนาดบริโภคได้เหมาะสมพอดีกับความต้องการของร่างกาย โดยระยะเวลาที่เหมาะสมที่ร่างกายสามารถแสดงให้เห็นสรรพคุณของ เอฟ เอฟ ซี ที่ได้รับเข้าไปนั้นโดยทั่วไปแล้วใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ ตั้งแต่เริ่มรับประทานอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนที่ไม่มีอาการผิดปกิเหล่านี้ นั่นเป็นสัญญาณที่ดี ที่แสดงว่าร่างกายของเขาเหล่านั้น มีการตอบรับต่อผลิตภัณฑ์ได้ดีเยี่ยม




aomm2002@gmail.com 088-0674891 line:taran29














ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นสำคัญไฉน?

คุณอาจจะกล่าวว่า "โดยปกติแล้ว เรามักจะได้รับสารอาหารครบถ้วนจากการรัปประธานอาหารในแต่ละวันอยู่แล้วฉะนั้นการรัปประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถือว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองทั้งเวลาและเงินทอง" แต่แท้จริงแล้ว 
1. ผักและผลไม้ที่เรารัประทานอยู่ทุกวันนี้ล้วนปนเปื้อนไปด้วยสารเคมีต่างๆ นานา ซึ่งเป็นสาร อันตรายและสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ อาทิ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี รวมถึงยากำจัดวัชพืช ต่างๆ 
2. สำหรับการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ไก่ หรือ วัว มักจะมีการฉีดฮอร์โมนเพื่อเร่งการ เจริญเติบโต ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดสารปนเปื้อนต่างๆ ในอาหาร และอาจเป็นอันตรายต่อ สุขภาพของผู้ที่บริโภคเนื้อสัตว์ดังกล่าว 
3.สภาวะมลพิษทางธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ดังนั้นสารอาหารที่ร่างกายได้รับใน แต่ละวัน อา
จะไม่เพียงพอ หรือด้อยคุณภาพ เราจึงจำเป็นต้องหันมารัประทานผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายสมบูรณ์และแข็งแรง 
4. ความเครียดจากการทำงาน หรือจากการเรียน อาจส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารน้อยลง กว่าเดิม เนื่องจากความเครียดจะกระตุ้นการเผาผลาญสารอาหารภายในร่างกายให้ทำงานได้ อย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกัน ระบบการดูดซึมสารอาหารจะทำงานช้าลง 

บทสรุปก็คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิต ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ในการต่อสู้กับภัยอันตรายที่อาจปนเปื้อนมากับสารอาหารและน้ำ ดื่มที่เราบริโภค หรือมลพิษต่างๆ รอบตัวสำหรับสมาชิคทุกคน๓ายในครอยครัวที่คุณรักรวมถึง ตัวคุณเอง





aomm2002@gmail.com 088-0674891 line:taran29